ดุอาประจำวันที่ 4 เดือนรอมฏอน พร้อมคำอธิบาย
|
อรรถาธิบายดุอาอฺประจำวันวันที่ 4 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ
ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญโดย อยาตุลลอฮฺ มุจตะฮีดี้ (ร.ฮฺ)
แปลและเรียบเรียงโดย (ครูอาซียะ เพ็ชรหรีม)
اللَّهُمَّ قَوِّنِی فِیهِ عَلَی إِقَامَةِ أَمْرِکَ وَ أَذِقْنِی فِیهِ حَلاَوَةَ ذِکْرِکَ
.وَ أَوْزِعْنِی فِیهِ لِأَدَاءِ شُکْرِکَ بِکَرَمِکَ وَ احْفَظْنِی فِیهِ بِحِفْظِکَ وَ سِتْرِکَ یَا أَبْصَرَ النَّاظِرِی
“โอ้อัลลอฮ์โปรดประทานความเข้มแข็งให้แก่ข้า ฯ เพื่อการธำรงพระบัญชาของพระองค์ โปรดให้ข้าได้ลิ้มรสความหวานชื่นแห่งการรำลึกถึงพระองค์ โปรดย้ำเตือนข้า ฯในการขอบคุณพระองค์ ด้วยเกียรติยศของพระองค์ โปรดคุ้มครองข้าด้วยการคุ้มครองและการปกปิดของพระองค์ โอ้พระผู้ทรงมองเห็นยิ่งกว่าผู้มองเห็นทั้งหลาย”
اللَّهُمَّ قَوِّنِی فِیهِ عَلَی إِقَامَةِ أَمْرِکَ
โอ้อัลลอฮ์โปรดประทานความเข้มแข็งให้แก่ข้า ฯ เพื่อการธำรงพระบัญชาของพระองค์
เราขอดุอาห์ให้พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้ประทานพละกำลัง ความเข้มแข็ง ให้เราได้มีแรงพละกำลังที่จะปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ให้เราได้มีแรงกำลังลุกขึ้นยืนนมาซ ให้เราได้มีกำลังในการถือศีลอด
เมื่อหลายปีก่อน มีชายชราคนหนึ่งอายุประมาณหนึ่งร้อยปี แต่เขายังยืนนมาซได้อย่างปรกติด้วยการควบคุมจิตใจให้ลุกขึ้นสู้ในการทำอิบาดะห์ ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้ว่าพลังของอิบาดะห์มันเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากความแข็งแรงของร่างกาย
ความแข็งแกร่งและพละกำลังของท่านอิมามอะลี(อ)
รายงานกล่าวว่า ท่านอิมามอะลี(อ)ไม่สามารถที่จะหักขนมปังแห้งได้ แต่ท่านสามารถพิชิตประตูคัยบัรได้อย่างง่ายดาย และสร้างแบบอย่างแห่งความกล้าหาญขึ้นมา บรรดาสาวกถามว่า โอ้อะลี ท่านมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ทำไมท่านไม่สามารถหัก
ขนมปังแห้งได้...... ท่านอิมามตอบว่า การพิชิตประตูคัยบัรเกิดจากพลังด้านจิตวิญญาณ แต่การหักขนมปังนั้นเกิดจากพลังของร่างกาย
พลังแห่งจิตวิญญาณและพลังแห่งร่างกาย มีความแตกต่างกัน เป็นไปได้ที่คนชรา อายุ 60 ปี จะมีพลังแห่งการอิบาดัต ลุกมานมาซในยามค่ำคืน อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยมากว่า วัยรุ่นคนหนุ่มสาว
ในเดือนรอมฏอนอันจำเริญนี้ ขอดุอาห์ต่อพระองค์อัลลอฮ์(ซบ.) เยอะๆ ให้ได้มีพละกำลัง แห่งการอิบาดัตเยอะๆ
ทำไม ความดีงาม และบารอกัต ถึงได้ลงน้อยลง?
ในอดีต บิดามารดาของเรา พวกเขาได้ทำอิบาดัต อยู่ในห้องที่เงียบสงบ เป็นเวลา
นานๆ และได้ออกไปทำมาหากิน นักธุรกิจ ก็เช่นกัน พวกเขาอ่านดุอาห์ อ่านกุรอาน อ่าน
ดุอาห์นุตบะฮ์ อ่านดุอาห์ยามเช้า จากนั้นถึงออกไปทำงาน แต่ว่าในปัจจุบันนี้ สิ่งเหล่านี้
หาได้ยาก ...ความดีงาม ลดน้อยลง บารอกัตลดน้อยลง
وَ أَذِقْنِی فِیهِ حَلاَوَةَ ذِکْرِکَ
โอ้พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) โปรดให้ข้าได้ลิ้มรสความหวานชื่นแห่งการรำลึกถึงพระองค์ด้วยเถิด
ถ้าเราได้ลิ้มรสแห่งความหวานของการอิบาดัต มันจะทำให้ เราอ่านดุอาห์อย่างมี
รสชาติขึ้น อ่านดุอาห์อบุฮัมซะ ษุมาลี อ่านดุอาห์กุเมล อ่านดุอาห์ต่างๆ อย่างมีความสุข
มีรสชาติ ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่ง่วงนอน ไม่รู้สึกว่า มันยาว รู้สึกดี รู้สึกว่ามันอร่อย เหมือน
เราได้ทานอาหารที่เราชอบ รสชาติดี เราก็จะทานมันอย่างมีความสุข และอยากจะทาน
มันอีก ไม่เบื่อ การถือศีลอด ของเราก็จะมีรสชาติขึ้น จนไม่อยากให้รอมฏอนจากไป
มีเรวายัต ได้กล่าวว่า หากว่าผู้รู้ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ตนรู้ อะซาบบทลงโทษที่น้อยที่สุดสำหรับ
เขา คือพระองค์อัลลอฮ์จะเอาความหวานชื่นแห่งการพูดคุย แห่งการอิบาดัต ออกไปจากเขา
وَ أَوْزِعْنِی فِیهِ لِأَدَاءِ شُکْرِکَ بِکَرَمِکَ
โปรดย้ำเตือนข้า ในการกล่าวขอบคุณต่อพระองค์ ด้วยเกียรติ ของพระองค์
คำว่า ชุกร์ ในที่นี้ไม่ได้ หมายถึง การกล่าวขอบคุณ
แต่ ชุกร์ หมายถึง การที่เราได้ใช้เนียะมัตความโปรดปราณต่างๆ ที่พระองค์ทรงมอบให้
นั้น ใช้ไป อย่าถูกที่ถูกทาง และถูกต้อง ตา ต้องไม่มองไปยัง นามะฮ์ราม นั่นคือ ชุกร์ของ ตา,
หู ไม่ฟัง เพลงที่ฮะราม ออกห่างจากการฟังการนินทา นั่นคือ ชุกร์ของ หู , ลิ้น ไม่นินทา
ไม่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น และนี่คือ ชุกร์ของลิ้น
โอ้พระองค์อัลลอ์(ซบ.) ได้โปรดให้ข้าพระองค์ได้รับเตาฟีคในการได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่
พระองค์ทรงประทานให้มา อย่างถูกต้อง เหมาะสมด้วยเถิด ยาอัลลอฮ์
وَ احْفَظْنِی فِیهِ بِحِفْظِکَ وَ سِتْرِکَ
โปรดคุ้มครองข้า ด้วยการคุ้มครองและการปกปิดของพระองค์
พระองค์ทรงเป็นผู้ปกปิดความบกพร่องทั้งหลายได้โปรดจงปกปิดความบกพร่องของข้าพระองค์เพื่อไม่ให้บุคคลใดได้รู้ถึงความผิดบาปของข้าพระองค์
ขอบคุณพระองค์บาป ไม่มีกลิ่นเหม็น
ได้มีเรวายัต ได้กล่าวว่า ถ้าหากว่าบาปมีกลิ่น จะไม่มีคนสองคนนั่งอยู่ต่อหน้ากัน
เมื่อทำการนินทาแล้วกลิ่นเหม็นแห่งการนินทานั้นก็ออกมา เมื่อฟังเสียงที่ฮะรามกลิ่นเหม็นก็จะโชยมาเป็นต้น
ขอบคุณพระองค์อัลลอฮ์ ที่ให้บาป ไม่มีกลิ่น
แต่ว่า เอาลียาของอัลลอฮ์ พวกท่านจะรับรู้ถึงกลิ่นเหม็นของบาป เช่น ท่านรอญับ
อะลี ฏัยยาต ท่านจะสามารถรับรู้ถึงกลิ่นของความบาป บาปมีกลิ่น และอีมาน ก็มีกลิ่น
เรื่องเล่า
อุเวซ ได้มาหาท่านศาสดาที่เมืองมาดีนะฮ์ แต่ว่าท่านศาสดาไม่อยู่ ด้วยกับการที่ท่านได้
ให้สัญญาไว้กับมารดาของตนว่า ถ้าท่านศาสดาไม่อยู่ก็ให้กลับมา ท่านก็รออยู่พักหนึ่ง แล้ว
ได้กลับไปยังเมืองเยเมน
เมื่อท่านศาสดากลับมาถึงที่บ้าน ท่านได้ถามว่าใครได้มาที่บ้านของฉันในขณะที่ฉันไม่อยู่ ?
ซอฮาบะฮ์ ตอบว่า อุเวซ คนเลี้ยงอูฐคนหนึ่ง
ศาสดา กล่าวว่า กลิ่นหอมแห่งอีมานของเขาติดอยู่ที่บ้านของฉัน
มนุษย์บางคน เราได้ไปมาหาสู่พบปะพูดคุยด้วยก็จะมีกลิ่นหอมโดยที่เราไม่ได้ประน้ำหอม
แต่อย่างใดและตรงกันข้ามบางคน ประน้ำหอมแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นเหม็นออกมาด้วยเหตุ
ที่อีมานและตักว่าของเขายังไม่สมบูรณ์
คนที่ไม่ตื่นนมาซศุบฮ์ จะส่งกลิ่นเหม็นออกมาเพราะว่าตอนที่เขานอนไม่ตื่น ชัยตอนฉี่
จะฉี่ใส่หน้าของเขา
ในหนังสือมุฟาเตียะ ได้เขียนไว้ว่า
ในทุกๆค่ำคืนมะลาอีกะ จะมาปลุก 3 ครั้งให้ลุกขึ้นนมาซชับ ถ้าเสียอะซานดังขึ้น
แล้ว เขายังไม่ตื่น ชัยตอนจะมีความสุข ดีใจเป็นอย่างมากที่คนๆนี้ไม่ได้ลุกขึ้นมานมาซ
ชับ และมันได้ฉี่ใส่หน้าของบุคคลคนนี้เมื่อก่อนหน้าที่เคยมีรัศมีของเขาแต่ว่าตอนนี้
รัศมีบนใบหน้าก็ค่อยๆหายไปและจะมีสีหน้าหมองคล้ำขุ่นมัว
|
โพสเมื่อ :
22 เม.ย. 2562,00:00
อ่าน 1005 ครั้ง
|