อรรถาธิบายดุอาประจำวันที่ 14 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ
โอยอายาตุลลอฮ มุจตะฮีดีย์
แปลและเรียบเรียงโดย ศิษย์เก่าดารุซซะฮ์รอ (อ.) (เชคมุฮัมมัดตะกี
มาลาสา)
اَللّـهُمَّ
لاتُؤَاخِذْنِى فِيهِ بِالْعَثَرَاتِ وَاَقِلْنِى فِيهِ مِنَ الْخَطَايَا
وَالْهَفَوَاتِ
وَلاتَجْعَلْنِى فِيهِ غَرَضاً لِلْبَلَايَا
وَالاَفَاتِ
بِعِزَّتِكَ يَا عِزَّ الْمُسْلِمِينَ
โอ้ อัลลอฮ์ โปรดอย่าเอาผิดข้า ฯ ในบาปต่าง ๆ
โปรดผ่อนปรน ข้า ฯ จากความผิดพลาด
และความโง่เขลา โปรดอย่าทำให้ข้า ฯ
เป็นเป้าหมายของการทดสอบและความชั่ว
ด้วยเกียรติยศของพระองค์ โอ้
พระผู้ทรงเป็นเกียรติยศ ของมวลมุสลิม
ดุอาอฺส่วนที่หนึ่ง:
اللَّهُمَّ
لاَ تُؤَاخِذْنِی فِیهِ بِالْعَثَرَاتِ
โอ้อัลลอฮฺ โปรดอย่าลงทัณฑ์ข้าพระองค์ด้วยกับความตกต่ำ
บางครั้งบางคราวเมื่อมนุษย์ตกอยู่ในความตกต่ำ
เขาจะสูญเสียอีหม่านของเขาไป บางครั้งอัลลอฮฺ (ซ.บ.)ได้
ลงโทษมนุษย์คนหนึ่งด้วยกับภัยพิบัติต่างๆอันเนื่องมาจากความผิดบาปของเขา
แต่มนุษย์นั้นไม่ได้เข้าใจถึง
เหตุผลของสิ่งต่างๆเหล่านี้
ผลของการละเลยการละหมาดช่วงต้นเวลา
เราทุกคนต้องคำนึงเสมอว่าอุบัติเหตุต่างๆและการเสียชีวิตโดยไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นเป็นผลมาจากความผิดบาปของพวกเรา.
หากบุคคลหนึ่งไม่ได้ทำการละหมาด แล้วไปขับรถ
ละหมาดจะสาบแช่งเขาและหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น นั่นเป็นเพราะคำสาบของละหมาดและเขาจะเสียชีวิตโดยที่ยังไม่ได้ละหมาด
หากเขาไม่ละทิ้งละหมาด และทำละหมาดในเวลาของมัน
เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น
لا تواخذنی
بالعثرات
เพียงแค่หนึ่งละหมาดที่มนุษย์ละทิ้งจากเวลาในช่วงต้นของมัน
จะทำให้เขานั้นลำบาก. ดังเช่นวจนะมากมายที่ได้
รายงานถึงผู้ที่ละทิ้งการละหมาดในช่วงต้นเวลา
ละหมาดนั้นก็จะสาบแช่งเขาและจะกล่าวกับผู้ที่ละเลยการละหมาดว่า
ضَیّعکَ
اللهُ کَما ضَیَعتَنی
พระองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)จะละเลยเจ้าเหมือนดั่งที่เจ้าละเลยข้า
แต่ถ้าหากเราละหมาดตั้งแต่ช่วงต้นเวลา
ละหมาดจะขอพรให้กับเราและกล่าวว่า
حَفَظَک
اللهُ کَما حَفَظتَنی
พระองค์อัลลอฮฺจะรักษาท่าน
เหมือนดั่งที่ท่านรักษาข้า
หากเราละหมาดช่วงต้นเวลา
หน้าที่การงานของเราก็จะดำเนิดไปด้วยดี
ดุอาอฺส่วนที่สอง:
وَ أَقِلْنِی
فِیهِ مِنَ الْخَطَایَا وَ الْهَفَوَاتِ
คำว่า”أَقِلْنِی”มาจากคำว่า”اقاله”ให้ความหมายว่า “การเพิกถอน” ดังตัวอย่าง :
หากท่านได้รับซื้อสินค้าหนึ่งมา
แต่ต้องการที่จะคืนสินค้า โดยที่ไม่ได้มีเหตุผลอะไรแอบแฝง และสินค้าที่ซื้อมา
ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายหรือมีปัญหาอะไร
และท่านต้องการเพิกถอนการซื้อขายนี้ ในกรณีแบบนี้ ถือเป็นมุสตะฮับและ
จะเป็นการดีหากผู้ขายรับสินค้าคืน
ในรูปแบบนี้ภาษาอาหรับเรียกว่า ”اِقاله ”
ในดุอาอฺส่วนนี้เราร้องขอการ
”اقاله” จากพระองค์
เราทำบาปมากมาย แน่นอนว่าผลของมันคือการลงโทษ
แต่เราเรียกร้องการเพิกถอนจากพระองค์
ให้พระองค์ทรงยกเลิกการลงโทษให้กับเรา
ดุอาอฺส่วนที่สาม
:
وَ لاَ
تَجْعَلْنِی فِیهِ غَرَضاً لِلْبَلاَیَا وَ الْآفَاتِ
โอ้อัลลอฮฺ
โปรดอย่าให้ข้าพระองค์เป็นเป้าของลูกศรแห่งการลงโทษ
คำว่า”غرض”แปลว่า”เป้าหมายของลูกศร”
และภัยพิบัติ ความยากลำบากต่างๆก็คือลูกศร. พระมหาคัมภีร์
อัลกุรอ่านได้กล่าวว่า
وَ ما
أَصابَکُمْ مِنْ مُصیبَةٍ فَبِما کَسَبَتْ أَیْدیکُمْ وَ یَعْفُوا عَنْ کَثیرٍ
และเคราะห์กรรมอันใดที่ประสบแก่พวกเจ้า
ก็เนื่องด้วยน้ำมือของพวกเจ้าได้ขวนขวายมาเอง
และพระองค์ทรงอภัย (ความผิดให้) มากต่อมากแล้ว
หรืออีกโองการหนึ่ง
فَمَن
يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًا يَرَهُ
ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าละอองธุลี
เขาก็จะเห็นมัน
وَمَن
يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّا يَرَهُ
ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าละอองธุลีเขาก็จะเห็นมัน
หากท่านยกลูกสาวให้กับชายคนหนึ่ง
และท่านปฏิบัติต่อเขาด้วยมารยาทอันดีงาม บุพการีของชายผู้นั้นก็จะ
ปฏิบัติดีต่อลูกสาวของท่านเช่นกัน.
หากไร่นาของพวกท่านเสียหายหรือการงานของพวกท่านประสบปัญหา
ลองถามตัวเองว่าท่านได้จ่ายคุมซ์และซะกาตครบถ้วนแล้วหรือยัง!?
ผลของการจ่ายคุมซ์และซะกาต
เมื่อไม่นานมานี้มีเมืองหนึ่งได้ประสบปัญหาภัยพิบัติ
ไร่องุ่นเสียหายมากมาย ข่าวนี้ได้ไปถึงเจ้าของไร่องุ่นคน
หนึ่ง เจ้าของสวนตอบว่า : ”ฉันมั่นใจว่าสวนของฉันจะไม่เป็นไรเพราะฉันคือผู้ที่จ่ายคุมซ์และซะกาตอย่างครบถ้วน”
เมื่อไปดูพบว่าทุกๆสวนพังเสียหายทั้งหมดยกเว้นสวนของชายผู้นั้น
เรื่อง : ร้านขายของที่ไม่ถูกไฟไหม้
ในสมัยอีหร่านยังอยู่ในการปกครองของราชวงศ์ชาฮ์ปาเลวี
มีวงเวียนหนึ่งที่ชื่อว่า วงเวียนซับ ครั้งหนึ่งในค่ำ
คืนอาชูรอได้ตรงกับวันประสูตของชาฮ์
กรมตำรวจได้ออกคำสั่งให้ติดไฟเฉลิมฉลองทั่วเมือง หากใครฝ่าฝืนจะ
ถูกจับกุม ที่วงเวียนซับ
มีร้านค้าร้านหนึ่งที่ไม่ยอมติดไฟเฉลิมฉลองในค่ำคืออาชูรอ เจ้าของร้านได้หลบหนีและ
กบดานอยู่ ณ เวลาหนึ่ง
เวลาผ่านไปได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่วงเวียนนั้น
และร้านค้าต่างๆในวงเวียนนั้นต่างถูกไฟไหม้
แต่ยังมีอีกร้านหนึ่งที่ปลอดภัยดี
ซึ่งเป็นร้านของคนที่ไม่ยอมติดไฟเฉลิมฉลองเพื่อให้เกียรติต่ออิมามฮุเซน(อ.)
ในค่ำคืนอาชูรอ
โองการหนึ่งจากพระมหาคำภีร์อัลกุรอ่านกล่าวว่า
:
إِنَّ
اللَّهَ لا یُغَیِّرُ ما بِقَوْمٍ حَتَّی یُغَیِّرُوا ما بِأَنْفُسِهِمْ وَ إِذا
أَرادَ اللَّهُ بِقَوْمٍ سُوْءاً فَلا مَرَدَّ لَهُ وَ ما لَهُمْ مِنْ دُونِهِ
مِنْ والٍ
แท้จริงอัลลอฮฺจะมิทรงเปลี่ยนแปลงชะตาของชนกลุ่มใด
จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงชะตาของพวกเขาเอง
ดุอาอฺส่วนที่สี่:
بِعِزَّتِکَ
یَا عِزَّ الْمُسْلِمِین
โปรดตอบรับคำวิงวอนของเราด้วยกับความยิ่งใหญ่ของพระองค์
โอ้ผู้ซึ่งเกียรติของผู้ศรัทธานั้นมาจากพระองค์
|