อรรถาธิบายดุอาประจำวันที่ 17 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ

โอยอายาตุลลอฮ มุจตะฮีดีย์

แปลและเรียบเรียงโดย ศิษย์เก่าดารุซซะฮ์รอ (อ.) (มูบีนา สุขศาสน์กวิน)

اللّـهُمَّ اهْدِنِى فِيهِ لِصَالِحِ الاَعْمَالِ وَاقْضِ لِى فِيهِ الْحَوآئِجَ

وَالاَمَالَ يَا مَنْ لَا يَحْتَاجُ اِلَى التَّفْسِيرِ وَالسُّؤَالِ

يَا عَالِماً بِمَا فِى صُدُورِ الْعَالَمِينَ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَ آلِهِ الطَّاهِرِينَ

โอ้ อัลลอฮ์ โปรดชี้นำข้า ฯไปสู่การกระทำความดีงามทั้ง หลาย โปรดทำให้ความปรารถนาและความหวังของข้าฯ บรรลุผล โอ้ พระผู้ทรงไม่ปรารถนาในคำวิงวอนและคำเยินยอ

โอ้ พระผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจของมวลมนุษย์

โปรดอำนวยพรแด่มุฮัมมัด และลูกหลานผู้บริสุทธิ์ของท่าน

اللَّهُمَّ اهْدِنِی فِیهِ لِصَالِحِ الْأَعْمَالِ

โอ้อัลลอฮ.!! โปรดชี้นำข้าพระองค์ในเดือนรอมฎอนไปสู่การงานที่ดีงาม

ไม่เพียงแค่การกินและนอนเท่านั้น แต่ให้เราเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในช่วงเวลาซะฮัร(เวลาของการกินอาหารเพื่อรับ

ศีลอด)​ และเป็นผู้ที่อ่านดุอาอิฟติตะฮ. ดุอาซะฮัร และอย่าให้เรานั้นเพียงแค่ฟังดุอาจากวิทยุ แต่ไห้เรานั้นเป็น

ผู้หนึ่งที่อ่านดุอาด้วยตัวของเราเอง

ดุอา ฮัมซะสุมาลี ในกุนูตนมาซวิตร.(นมาซยามค่ำคืน)​ :

นักบรรยายธรรม ณ เมืองกุม มีนามว่า มีรซอ มูฮำหมัดตะกี อัชรอกี เขาได้กล่าวจาก คำพูด ของ วัดดุชอน ว่า “ ในช่วงเวลาซะฮัร ฉันได้เห็นอุลามา (นักการผู้รู้)  70 คน กำลังอ่านดุอาอะบูฮัมซะสุมาลีในกุนูตนมาซ วิตรโดยปราศจากการมองหนังสือใดๆ (ท่องจำ)​ ในสภาพที่พวกเขานั้นกำลังร้องไห้  ดังนั้น เราก็

เช่นกัน จงพยามอ่านดุอาทุกๆดุอาด้วยตัวของเราเอง และเป็นผู้ที่มีคำพูดมาพร้อมกับการปฎิบัติ ให้

มากกว่า การพูดและฟังเพียงอย่างเดียว”

คุณลักษณะของนักบรรยายธรรม :

นักบรรยายธรรมจะต้องเป็นผู้ที่นำคำพูดของบรรดา อะลิลบัยต์มาอธิบายให้กับประชาชนฟัง

อิมามบาเก็ร และ อิมามศอดิก( อ.)​ กล่าวว่า : ในการบรรยายนั้นไม่ไช่เพียงแต่จะพูดถึงเรื่องสังคม

บ้านเมือง แต่ละวันเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องนำหลักคำสอนของอะลิลบัยต์มาบรรยายควบคู่กันด้วยเช่นกัน

โอ้พระองค์!!  ได้โปรดช่วยเหลือเราในการได้มาซึ่งการงานที่ดีงาม และทรงประทานเตาฟีก (โอกาส)​ ให้เราได้เป็นผู้ที่อ่านกุรอ่านด้วยเถิด   ซึ่งหนึ่งจาก การงานที่ดีทั้งหลายและดีที่สุดก็คือ การอ่านอัล กุรอ่าน 2-3

หน้า เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะในช่วงเวลาซะฮัร (เวลาของการกินอาหารเพื่อรับศีลอด)​  และทำการลุแก่โทษ

หรือในช่วงที่เราได้ลูบศรีษะเด็กยะตีมด้วยความเมตตา พระองค์จะขจัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายให้ออกไปจากหัวใจของเรา

وَ اقْضِ لِی فِیهِ الْحَوَائِجَ وَ الْآمَالَ

    โอ้อัลลอฮ.!! ได้โปรดประทานสิ่งที่ฉันต้องการแก่ฉันและได้โปรดตอบรับความปรารถนาที่ฉันมีด้วยเถิด

    เงื่อนไขในการตอบรับดุอาและการได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนา  : 

         การมีความหวังไปยังพระองค์เท่านั้น คือเงื่อนไขเดียวที่ดุอาจะถูกตอบรับ  เพราะหากว่าหัวใจของเรา

นั้นยังมุ่งหวังและยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นแล้วไซร้ จงรู้ไว้เถิดว่า ความต้องการของเราจะไม่มีวัน

ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

เวลาของการถูกตอบรับดุอา : คือ เวลาที่ซึ่งเรานั้นหมดหวังจากทุกสิ่งทุกอย่าง

คำสั่งเสียต่อการตะวัสซุลไปยังท่านหญิงนัรญิสคอตูน : 

การถูกตอบรับดุอาได้มาโดยการ ตะวัสซุลผ่านบรรดาอะลิลบัยต์ ( อ.)​  โดยเฉพาะการตะวัสซุลไปยังท่าน

หญิง นัรญิสคอตูนมารดาของท่านอิมามมะดี( อ.จ.) เมื่อประมาณ 30-40 ปีที่แล้ว ได้มี หนึ่งจากอุลามา

ได้สอนให้กับฉัน และทุกคนที่เขาได้ตะวัสซุลไปยังนางดุอาของเขาจึงถูกตอบรับ

        มีบุคคลนึงซึ่งเขาไม่มีลูก ฉันจึงได้บอกไห้เขานั้นอ่านกุรอานเพื่อเนียตฮะดียะให้กับท่านหญิงนัรญิส

เมื่อเค้าได้ปฎิบัติ จากนั้นเขาจึงมีทายาทสืบทอดในเวลาต่อมา

       ท่านหญิงนัรญิสเป็นแม่ของอิมามแห่งยุคสมัยถ้าหาก เราได้ตะวัสซุลไปยังท่านแล้วแน่นอนอิมามซะมาน

จะไม่มีวันมองข้าม ผู้ที่ตะวัสซุลไปยังแม่ของท่านอย่างแน่นอน และจะรีบตอบรับดุอานั้นอย่างเร็วที่สุด

เรื่องเล่าจากความทรงจำ :

ฉันจำได้ว่า มีเงินจำนวนมากที่ฉันนำติดตัวมายังเมืองกุม เพื่อจะมอบให้ท่านอายาตุลลอฮตับรีซี

ซึ่งเงินนั้นได้อยู่ในกระเป๋าหนึ่ง แต่เมื่อฉันได้ถึงเมืองกุมฉันเห็นเพียงกระเป๋าที่ไร้ซึ่งเงิน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเงินนั้น

หายไปได้อย่างไร ฉันจึงเริ่มศอลาวาตโดยเนียตให้กับท่านหญิงนัรญิส และในคืนนั้นเอง มีบุคคลนึงได้นำเงิน

มามอบให้กับฉัน

یَا مَنْ لاَ یَحْتَاجُ إِلَی التَّفْسِیرِ وَ السُّؤَالِ

โอ้พระผู้อภิบาล!! ผู้ที่ซึ่งไม่มีความต้องการและจำเป็นต่อสิ่งใด ผู้ที่ฉันกำลังวิงวอนร้องขอ

ความปรารถนาของฉัน

โอ้อัลลอฮ.!! ทำไมพระองค์ไม่เพียงแค่ทรงรับฟังคำวอนขอของเราเพียงอย่างเดว แต่ พระองค์ยังเป็นผู้ที่รู้ถึงอุปสรรคปัญหาและความยากลำบากของเราอีก ? และบรรดาอะอิมมะฮ์ก็เช่นกัน

โอ้อัลลอฮ.!! ได้โปรดตอบรับดุอาของเราแม้ว่าพระองค์จะไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะรับฟังความต้องการ

ของเรา  แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่ได้ร้องขอจากพระองค์ ก็ยังประทานให้กับพวกเขา ที่ถูกกล่าวไว้ใน

ดุอาเดือนรอญับ ว่า :

« یَا مَنْ یُعْطِی مَنْ سَأَلَهُ یَا مَنْ یُعْطِی مَنْ لَمْ یَسْأَلْهُ وَ مَنْ لَمْ یَعْرِفْهُ تُحَنُّناً مِنْهُ وَ رَحْمَةً »

โอ้พระองค์ ผู้ซึ่งตอบรับการวิงวอนนของบุคคลที่ร้องขอ และผู้ที่ไม่ได้ร้องขอใดๆเลยจากพระองค์อีกทั้งพวกเขานั้นยังไม่รู้จักพระองค์

یَا عَالِماً بِمَا فِی صُدُورِ الْعَالَمِینَ

โอ้ผู้ทรงรอบรู้ !!  ทำไม อัลลอฮ. ถึงไม่มีความจำเป็นต่อการร้องขอและวิงวอนของบ่าวของพระองค์เลย

เพราะเพื่อพระองค์ จะได้เป็นทุกอย่างในหัวใจของบ่าวของพระองค์นั่นเอง ดังนั้น จงมีแต่พระองค์ และพระองค์ก็จะประทานทุกการงานให้เราเช่นกัน

صَلِّ عَلَی مُحَمَّدٍ وَ آلِهِ الطَّاهِرِین

โอ้พระผู้อภิบาล!! จงกล่าวศอลาวาตให้แก่ท่านศาสดามูฮำหมัด (ศ.)​และวงวานศ์ลูกหลาน

ผู้มหาบริสุทธิ์ของมุฮำหมัดเถิด