อรรถาธิบายดุอาประจำวันที่ 11 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ

โอยอายาตุลลอฮ มุจตะฮีดีย์

แปลและเรียบเรียงโดย ศิษย์เก่าดารุซซะฮ์รอ (อ.) (อัสมา  แก้วร่มวัน)

اللَّهُمَّ حَبِّبْ إِلَیَّ فِیهِ الْإِحْسَانَ وَ کَرِّهْ إِلَیَّ فِیهِ الْفُسُوقَ وَ الْعِصْیَانَ

وَ حَرِّمْ عَلَیَّ فِیهِ السَّخَطَ وَ النِّیرَانَ بِعَوْنِکَ یَا غِیَاثَ الْمُسْتَغِیثِین

โอ้อัลลอฮ์โปรดประทานสิ่งดีงามแก่ข้า ขอทรงบังคับข้าให้ออกห่างจากการฝ่าฝืนและการทำบาป

โปรดทำให้ความกริ้วและไฟนรกเป็นสิ่งต้องห้ามแก่ข้า ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์

 โอ้ผู้ทรงให้การช่วยเหลือแก่ผู้ขอความช่วยเหลือ ทั้งหลาย

วิธีการขอให้พระองค์ทรงประทานความความดีงามแก่เรา

اللَّهُمَّ حَبِّبْ إِلَیَّ فِیهِ الْإِحْسَانَ

โอ้อัลลอฮ์โปรดทำให้ตัวขอข้านี้มีความสุขที่จะประพฤติปฎิบัติสิ่งที่ดีงาม

 และให้ตัวของข้านี้ รังเกียจต่อการกระทำชั่ว

ดุอาบทนี้เป็น ดุอาห์บทหนึ่งที่จะให้เรานั้น ชอบที่จะกระทำคุณงามความดี ถ้าหากพวกเจ้านั้นชอบที่จะทำดี

ก็จงกระทำ การงานนั้น ในที่ลับ และจงเนียตด้วยความบริสุทธ์ไปยังพระองค์เหมือนอย่างเช่น : ถ้าหากว่า

เจ้ามีเพื่อนบ้านที่ไม่ดีก็จงปฏิบัติดีต่อเขา จงบริจาคทานให้กับบุคคลหนึ่งที่เราไม่รู้จัก หรือให้เจ้านั้นช่วยเหลือ

ไปยังผู้อื่น และจงทำไปโดยไม่หวังผลตามแทนจากการงานนั้น ถ้าหากว่าเจ้านั้นชอบที่จะบริจาคทานพวกเจ้าก็

จงให้ในสิ่งที่ดีที่สุด เเละสิ่งที่ดีที่สุด นั่นคือการช่วยเหลือไปยังครอบครัวที่คับแค้นและยากจน เพราะหลายๆคน

 ไม่ทำการช่วยเหลือไปยังพวกเขาเพราะ ด้วยความรังเกียจและความต่ำต้อยของพวกเขา

ท่านอายาตุลลอฮอ์ บุรูญะดีได้ออกคำฟัตวาไว้ว่า ถ้าหากในจังหวัดของ เจ้านั้นมีคนจนอยู่แต่ไม่ได้ทำ

การจ่ายฟิตเราะให้กับเขา แต่บริจาคให้กับคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ ณ. จังหวัดนั้น ถือว่า ฟิตเราะฮ์นั้น ไม่ เป็นที่

สมบูรณ์ หรือในระหว่างที่ทำการจ่ายฟิตเราะฮ์เกิดมีปัญหาขึ้น ถึงยังไงแล้วก็จำเป็นที่ต้องทำใหม่ให้สมบูรณ์

มีฮาดิษบทหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า

ดีที่สุดในหมู่พวกเจ้านั้น คือคนที่ทำอาหารและทำ การบริจาคทานให้กับผู้อื่น

ดีที่สุดในหมู่พวกเจ้าคือคนที่กล่าวสลามด้วยเสียงดัง

นมาซซอลาตุลลยัฮ์ในขณะที่คนอื่นหลับใหลอยู่

แต่ถึงยังไงก็แล้ว พวกเจ้าก็อย่าได้คิดว่า พวกเจ้านมาซแล้วทำให้เจ้านั้นดีกว่าคนอื่น

จงทำการออกห่างจากความคิดที่โอ้อวด

    ท่านอิมามซัจญาด ในดุอาอะบูฮัมซะซุมาลี ท่านได้กล่าวว่า “โอ้พระเจ้าของฉัน ในบรรดาบ่าวของท่านมีอีกไหม ที่จะชั่วมากไปกว่าฉัน”

นี้ในขณะที่เราเห็นว่าท่านเป็นมะซูม แต่คำกล่าวของท่านช่างเป็นคำพูดของผู้ที่ตำต้อยคนหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้พวกเจ้าอย่าคิดเลยว่าตัวเองจะ ดีไปกว่าคนอื่น พวกเจ้าอย่าโอ้อ้วดอย่าลำพองตน

وَ کَرِّهْ إِلَیَّ فِیهِ الْفُسُوقَ وَ الْعِصْیَانَ

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าขอทรงได้โปรด ทำให้ข้าดูหมิ่นต่อความบาป

เพราะการทำบาปนั้นเปรียบเสมือนสิ่งสกปรกที่สุด เพราะหากว่าเจ้านั้นได้ล่วงรู้ถึงการทำบาปเเล้ว จะไม่มีใคร

เลยในหมู่พวกเจ้า จะทำบาป

จากทัศนะของอิมามมะซูม

การที่บรรดาอิมามมะซูมไม่กระทำบาปเพราะพวกท่านนั้นล่วงรู้ถึงแก่นแท้ของการกระทำ สิ่งที่น่ารังเกียจ

وَ حَرِّمْ عَلَیَّ فِیهِ السَّخَطَ

โอ้อัลลอฮ์โปรดทำให้ความโกรธและ นรก นั้นเป็นสิ่งที่ฮารามสำหรับตัวของฉัน

ท่านอิมามศอดิก(อ)ได้กล่าวว่า “พวกท่านจงพกพาอิมามของพวกท่านมา แล้วหน้าที่ ชาฟาอัตนั้น พวกเราจะเป็นผู้ให้แก่พวกเจ้าเอง”

จุดสุดท้ายของคนที่ยึดติดในดุนยา

อุซตาด บุรฮาน ได้กล่าวว่า

มีบุคคล บุคคลหนึ่งซึ่งเขาอยู่ในสภาพของการใกล้จะสิ้นลมหายใจ พยายามให้เขาได้กล่าวคำชะฮาดะตัย

เท่าไหร่เขาก็ไม่กล่าว สุดท้ายเขากลับสู่สภาพที่ดีขึ้น ก็ได้ถามเขาว่าทำไมถึงไม่กล่าวคำ ชะฮาดะตัย เขาบอกว่า 

ครั้งหนึ่งฉันได้ซื้อ กระจกไว้ และฉันรักมันมาก เมื่อฉันต้องการจะกล่าวคำชะฮาดะตัย ก็ได้เห็นชัยตอนมันได้

บอกกับฉันว่า ถ้าเจ้ากล่าวคำชะฮาดะตัยฉันจะทำให้กระจกของเจ้าแตก ด้วยกับการลุ่มหลงในดุนยา

เป็นไปได้ที่อิมานจากคนคนหนึ่งจะหายไป ด้วยกับแค่กระจกหนึ่ง อัน

بِعَوْنِکَ

หมายถึง ด้วยความช่วยเหลือของพระองค์

โอ้พระเจ้าของฉัน ฉันไม่สามารถที่จะกระทำงานใดได้เลยโดยปราศจากการช่วยเหลือของพระองค์

แต่ขณะเดียวกันนั้นแล้วพวกท่านก็จงเป็นผู้ก้าวที่จะเดินไปก่อนแล้วหลังจากนั้น พระองค์จะเป็นผู้ช่วยเหลือพวกท่านเอง เเละพวกท่านต้องมีความหวังไปยังพระองค์อย่าสิ้นหวังในพระเมตตาของพระองค์โดยเด็ดขาด

یَا غِیَاثَ الْمُسْتَغِیثِین

โอ้ผู้ทรงให้การช่วยเหลือแก่ผู้ขอความช่วยเหลือทั้งหลาย