อรรถาธิบายดุอาประจำวันที่ 12 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ
โอยอายาตุลลอฮ มุจตะฮีดีย์
แปลและเรียบเรียงโดย ศิษย์เก่าดารุซซะฮ์รอ (อ.) (ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม)
اللَّهُمَّ زَیِّنِّی فِیهِ بِالسِّتْرِ وَ الْعَفَافِ وَ اسْتُرْنِی فِیهِ بِلِبَاسِ الْقُنُوعِ
وَ الْکَفَافِ وَ احْمِلْنِی فِیهِ عَلَی الْعَدْلِ وَ الْإِنْصَافِ
وَ آمِنِّی فِیهِ مِنْ کُلِّ مَا أَخَافُ بِعِصْمَتِکَ یَا عِصْمَةَ الْخَائِفِین
ความหมาย
โอ้อัลลอฮ์ โปรดประดับประดาข้า ฯ ด้วยการปกปิดความผิดและประทานความบริสุทธิ์
และทรงสวมใส่อาภรณ์แห่งความพอเพียงและความระมัดระวังแก่ข้า ฯ
โปรดให้ข้า ฯ ดำรงมั่นอยู่กับความยุติธรรมและดุลยภาพ
โปรดให้ข้า ฯ ปลอดภัยจากความหวาดกลัวทั้งมวล ด้วยการคุ้มครองของพระองค์
โอ้ พระผู้ทรงคุ้มครองผู้หวาดกลัวทั้งหลาย
คำอธิบาย
ส่วนที่ 1
اللَّهُمَّ زَیِّنِّی فِیهِ بِالسِّتْرِ وَ الْعَفَافِ
โอ้อัลลอฮ์ โปรดประดับประดาข้า ฯ ด้วยการปกปิดความผิดและประทานความบริสุทธิ์
คำว่า ستر
หมายถึง การปกปิดความผิดบาปต่างๆจากผู้คน
จงตามหาข้อบกพร่องต่างๆของตนเอง ขอความสำเร็จจงประสบแด่บ่าวผู้ที่เห็นถึงข้อบกพร่องของตนเอง
และไม่สนใจไปยังข้อบกพร่องของผู้อื่น
หากเพื่อนสนิทมิตรสหายของคุณมีข้อบกพร่องต่างๆ จงอย่าเอาสิ่งนี้ไปพูดกับผู้อื่น เพราะไม่เช่นนั้นการ
กระทำอันนี้ของคุณ ถือเป็นการนินทา และอามัลต่างๆ(การกระทำต่างที่จะได้ผลบุญ) ที่คุณทำไว้ 40 วันนั้นจะ
ไม่มีประโยชน์อะไรเลยเพราะมันจะถูกทำลาย
ท่านอายาตุลลอฮ ได้ทำการอธิบายต่อว่า ตรงประโยคที่เราวิงวอนขอกับพระองค์ว่า
اللَّهُمَّ زَیِّنِّی فِیهِ بِالسِّتْرِ
ที่เราขอต่อพระองค์ให้ทรงปกปิดความผิดพลาดของเรานั่น เราเองก็ต้องขอต่อพระองค์ว่า
ขอให้เรานั่นเป็นผู้ที่ไม่ตามหาข้อบกพร่องของผู้อื่นเช่นกัน
มีฮะดิษ(การรายงานจากบรรดามะศูม (อ.) ว่า
ขอความโชคดีจงประสบแด่ผู้ที่ได้มองเห็นข้อบกพร่องต่างๆของตนเองอยู่เหนือ
ข้อบกพร่องต่างๆของผู้อื่น
ส่วนคำว่า وَ الْعَفَافِ
หมายถึง การไม่ทำบาป และเป็นมนุษย์ที่มีความบริสุทธิ์ หรือ ใครก็ตามที่อยู่ในหมู่ผู้ไม่กระทำบาป
ส่วนที่ 2
وَ اسْتُرْنِی فِیهِ بِلِبَاسِ الْقُنُوعِ وَ الْکَفَافِ
และทรงสวมใส่อาภรณ์แห่งความพอเพียงและความระมัดระวังแก่ข้า ฯ
คำว่า الْکَفَافِ
หมายถึง ในอีกความหมายหนึ่งคือ
ความพึงพอใจในการดำรงชีวิตด้วยกับความสามารถที่มีอยู่ที่มนุษย์คนหนึ่งจะใช้ชีวิตผ่านไปได้
ท่านอายาตุลลอฮ ได้ยกตัวอย่างจากฮะดิษ ว่า
เมื่อครั้งที่ท่านรอซูลรุลลอฮ(ศ็อลฯ) ได้ไปยังฝูงแกะและได้กล่าวกับคนเลี้ยงแกะว่า
“กรุณานำนมให้ฉันสักเล็กน้อยเถิด”
คนเลี้ยงแกะได้นำนมมาให้ท่านรอซูลจำนวนหนึ่ง และท่านรอซูลก็ได้ดุอาอให้แก่เขาว่า “โอ้อัลลอฮโปรดทำให้
เขาเป็นผู้ที่มีความเพียงพอในการใช้ปัจจัยยังชีพของตัวเองด้วยเถิด”
และเมื่อท่านรอซูลได้เดินทางไปอีกที่หนึ่งและได้ขอนมแกะจากคนเลี้ยงแกะ แต่ทว่าคนเลี้ยงแกะคนนี้ไม่ได้
นำนมมาให้ท่าน และท่านก็ดุอาอให้แก่เขาว่า
“โอ้อัลลอฮโปรดทำให้เขาเป็นผู้มั่งมีและร่ำรวย”
สาวกของท่านแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมากและถามท่านว่า “ทำไมท่านถึงดุอาอให้กับคนเลี้ยงแกะ
คนแรกอีกแบบหนึ่งแล้วดุอาอให้กับคนที่สองว่าให้มั่งมีและร่ำรวย?”
ท่านรอซูลตอบว่า “แท้จริงแล้วดุอาอที่แท้จริงนั่นคือ ดุอาอ อันแรกที่ฉันขอให้แก่คนเลี้ยงแกะคน
แรก ที่เขาเป็นผู้ขวนขวายปัจจัยจากพระองค์ด้วยกับความรู้สึกเพียงพอ เพราะว่า เพราะความมั่งคั่งจะ
เกิดขึ้นได้จากมนุษย์ที่มีความอุสาหะ”
ส่วนที่ 3
وَ احْمِلْنِی فِیهِ عَلَی الْعَدْلِ وَ الْإِنْصَافِ
โปรดให้ข้า ฯ ดำรงมั่นอยู่กับความยุติธรรมและดุลยภาพ
ท่านอายาตุลลอฮ ได้อธิบายโดยนำวิถีชีวิตของเชคฮุเซน กะบีร ดังนี้
ท่านเชคฮุเซน กะบีร เมื่อท่านไปซื้อเนื้อและได้พูดกับคนขายเนื้อว่า “เอาเนื้อแค่ส่วนนี้ให้แก่ฉันทีและ
ส่วนที่เหลือก็ให้คนอื่นๆ(ท่านซื้อเนื้อเท่าที่จำเป็นต้องซื้อเพื่อให้คนอื่นๆได้ซื้อ)” ซึ่งตอนนั้นเขาเป็น
มุญตะฮิดแล้วและซื้อบ้านเป็นของตนเองเรียบร้อย(หมายถึงท่านเป็นคนมีเงิน) และท่านก็ได้ไปซื้อขนมปัง
เมื่อไปถึงท่านก็ได้ยืนตามคิวซึ่งเป็นคิวท้ายสุด(เมื่อเป็นแบบนั้นคนขายขนมปังต้องการจะเอาขนมปังมาให้กับท่าน)
โดยที่คนอื่นๆที่ต่อคิวก่อนท่านยังไม่ได้ ท่าน(ปฏิเสธ)และไม่ซื้อขนมปัง เขาเป็นเอาลียาคนหนึ่งของพระองค(อ.)
และคุณลักษณะต่างเหล่านี้ มาจากความยุติธรรมของเขานั่นเอง
ส่วนที่ 4
آمِنِّی فِیهِ مِنْ کُلِّ مَا أَخَافُ بِعِصْمَتِکَ یَا عِصْمَةَ الْخَائِفِین
โปรดให้ข้า ฯ ปลอดภัยจากความหวาดกลัวทั้งมวล ด้วยการคุ้มครองของพระองค์
โอ้ พระผู้ทรงคุ้มครองผู้หวาดกลัวทั้งหลาย
|