ข้อมูลวิชาการ
ดุอาอฺประจำวันที่ 24 รอมฎอน พร้อมคำอธิบาย

อรรถาธิบายดุอาประจำวันที่ 24 ของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ

โอยอายาตุลลอฮ มุจตะฮีดีย์

แปลและเรียบเรียงโดย ศิษย์เก่าดารุซซะฮ์รอ (อ.) (มาเรียม  สาอิ)

 

اللَّهُمَّ إِنِّی أَسْأَلُکَ فِیهِ مَا یُرْضِیکَ وَ أَعُوذُ بِکَ مِمَّا یُؤْذِیکَ

وَ أَسْأَلُکَ التَّوْفِیقَ فِیهِ لِأَنْ أُطِیعَکَ وَ لاَ أَعْصِیَکَ یَا جَوَادَ السَّائِلِین

โอ้พระผู้อภิบาลข้าฯขอวิงวอนต่อพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงพอพระทัย

และขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากสิ่งที่แข็งกร้าวต่อพระองค์

ขอวิงวอนต่อพระองค์ทรงประทานเตาฟีกแก่ข้าในการเคารพภักดีและการยุติต่อการทำบาปต่อพระองค์

 โอ้ผู้ทรงเมตตาผู้ที่วิงวอนทั้งหลาย

คำอรรถาธิบายส่วนที่1

اللَّهُمَّ إِنِّی أَسْأَلُکَ فِیهِ مَا یُرْضِیکَ

โอ้พระผู้อภิบาลข้าฯขอวิงวอนต่อพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงพอพระทัย

 

โอ้อัลลอฮฺ เรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการขอต่อพระองค์

อย่างแรกก็คือ ขอพระองค์ทรงประทานสิ่งหนึ่งแก่เราที่ว่าจะทำให้พระองค์นั้นทรงพึงพอพระทัยในตัวเรา 

และดุอานี้ก็เป็นดุอาที่ดีมากๆดุอาหนึ่งที่จะนำพามนุษย์ไปสู่ความสมบูรณ์แบบและพระองค์ทรงพึงพอใจในตัวเขา

 

คำอรรถาธิบายส่วนที่ 2

وَ أَعُوذُ بِکَ مِمَّا یُؤْذِیکَ

และขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากสิ่งที่แข็งกร้าวต่อพระองค์

 โอ้อัลลอฮฺขอความคุ้มครองต่อพระองค์จากการงานทั้งหลายที่ไม่เป็นที่พึงพอใจจากพระองค์ เฉกเช่น

ความผิดบาป การหลงเคารพเชื่อฟังชัยตอนมารร้าย

 โอ้อัลลอฮฺขอความคุ้มครองต่อพระองค์เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่ปฏิบัติการงานที่ไม่เป็นที่พึงพอใจ ซึ่งถ้าหากว่า

เป็นเช่นนั้นแล้ว เราได้ปฏิบัติการงานใดไปแล้วไม่เป็นที่พึงพอใจของพระองค์โปรดตักเตือนเราและ ขอพระองค์

ทรงพึงพอใจในตัวเราด้วยเถิด

 

ตัวชี้วัดความพึงพอใจของพระองค์

 ในดุอาบทก่อนหน้านี้ก็ได้พูดถึงเเล้วว่า ถ้าหากต้องการที่จะรู้ว่าพระองค์พึงพอพระทัยในตัวท่านรึปล่าวนั่น

ให้มองดูที่หัวใจของท่านเอง ว่าท่านนั้นพึงพอใจในตัวพระองค์รึปล่าว? ถ้าหากเห็นว่าตัวท่านเองนั้นพึงพอใจใน

พระองค์ แน่นอนพระองค์ก็จะพึงพอพระทัยในตัวของท่านเช่นกัน  แต่ถ้าหากท่านยังมีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเอง

ว่าทำไมคนนั้นมีเงินทองมากมายแต่ตัวฉันเองนั้นไม่มี คนนี้มีหลายอย่าง แต่ทำไมตัวฉันถึงไม่มี ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้

แล้วบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ท่านนั้นยังไม่พึงพอใจในพระองค์

เพราะว่าพระองค์ทรงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับบ่าวของพระองค์ ฉะนั้นทุกสิ่งอย่างที่

พระองค์ประทานให้ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับเราที่สุด การที่เราท้วงติงถามว่า ทำไมๆ...

นั้นหมายถึงการไม่พึงพอใจต่อการกำหนดของพระองค์

ในรีวายัตได้กล่าวไว้ว่า « أَنْتُمْ کَالْمَرْضَی وَ اللَّهُ رَبُّ الْعَالَمِینَ کَالطَّبِیبِ » “พวกท่านเปรียบดั่งผู้ป่วยไข้และ

พระองค์เป็นหมอรักษา” ซึ่งคนเป็นหมอนั้นจะไม่ตามใจผู้ป่วยจะไม่ให้ทุกอย่างตามต้องการและผู้ป่วยก็ไม่สามารถ

ที่จะทานอาหารทุกอย่างตามใจอยาก และหมอเองก็ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยทานอาหารตามใจอยาก ก็เหมือนกันกับ

ที่ผู้ป่วยไม่สามารถเรียกร้องหรือท้วงติงอะไรใดๆจากคำสั่งของหมอ เราก็จะต้องไม่ท้วงติงใดๆจากการกำหนดของ

พระองค์ เพราะพระองค์ทรงรู้ดีที่สุดว่าสิ่งใดเหมาะสมและดีกับเราซึ่งพระองค์เองก็ต้องการให้สิ่งที่ดีและเหมาะสม

กับเราเช่นกัน

 

คำอรรถาธิบายส่วนที่ 3

أَسْأَلُکَ التَّوْفِیقَ فِیهِ لِأَنْ أُطِیعَکَ

ขอวิงวอนต่อพระองค์ทรงประทานเตาฟีกแก่ข้าในการเคารพภักดีและการยุติต่อการทำบาปต่อพระองค์

คุณลักษณะสามประการของผู้ศรัทธา( มุมิน)

อิมามญะวาด(อลัยฮิสลาม) ได้กล่าวว่า :”ผู้ศรัทธาจำต้องมีคุณลักษณะทั้งสามประการ คือ

1.การได้รับเตาฟีก

2.การได้ตักเตือนและขัดเกลานัฟซ(จิตวิญญาน)ของตนเอง

3.การน้อมยอมรับคำสั่งสอนและคำตักเตือน”

 

คุณลักษณะประการแรก คือ

การได้รับโอกาส(เตาฟีก)จากพระองค์ คนที่ไม่เคยได้รับเตาฟีก คือคนที่ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย เพราะฉะนั้น

เราจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับโอกาสและมีโอกาสที่ทำการงานเพื่อศาสนา เช่นการได้สอน ได้เผยแพร่ศาสนา ใช่แค่ว่า

เป็นคนที่ทำการละหมาดทำการขอดุอาเพียงอย่างเดียว

ท่านลองดูว่า เชคอับบาสกุมมีช่างได้รับโอกาสอะไรมากมายเช่นนี้ที่ได้รับใช้ศาสนา ได้รับใช้เราทุกๆคน

ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า โอกาสและเตาฟีกนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้า ที่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับมัน

ฉะนั้นจงขอเตาฟีกขอโอกาาสต่อพระองค์เถิด และพยายามให้ถึงที่สุดที่ท่านนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการงานที่ดี

คนรวยบางคนยังไม่มีเตาฟีกที่จะซื้อเนื้อแจกจ่ายคนจนเลย เพราะมัวแต่เก็บและสะสมทรัพย์สมบัติของตน เก็บไว้

ให้ลูกให้หลาน นั้นหมายถึงเขากำลังฝากฝังลูกหลานของตนไว้กับเงินทอง มิใช่พระองค์!!!

จงฝากฝังลูกหลานของท่านไว้กับพระองค์ไม่ใช่เงินทองนอกกาย

ฉันได้เจอคนหนึ่งที่ว่าเขานั่นได้ฝากฝังลูกหลานของตนไว้กับเงินทองเพื่อหวังที่จะได้อยู่สบาย แต่ตอนนี้เงิน

ทองของเขาได้ร่อยหรอและหมดไปแล้ว และบุคคลที่ได้ฝากฝังลูกหลานของเขาไว้กับพระองค์และเขาเองก็ได้ไปถึง

ตำแหน่งอันสูงส่ง

ในฮะดิษได้กล่าวว่า

ท่านจะเสียสละตนเองเพื่อคนอื่นสักเท่าไหร่กัน ต้องพบเจอกับความยากลำบาก ความขมขื่นสักเท่าไหร่กัน

เพื่อคู่ครองในอนาคตของภริยาของท่าน เพราะว่าหลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตลง คู่ครองของท่านก็จะแต่งงานกับ

บุคคลอื่นและทรัพย์สมบัติทุกๆอย่างที่ท่านหามาได้ก็จะตกเป็นของสามีใหม่ภริยาของท่าน

ในฮะดิษก็ได้กล่าวไว้ว่า

ถ้าหากลูกหลานของท่านเป็นคนดี พระองค์จะไม่ปล่อยเขาให้อยู่ตามลำพัง (จะคอยช่วยเหลือพวกเขา)แต่ถ้า

หากลูกหลานของท่านนั้นไม่ดีและเป็นศัตรูต่อพระองค์ ทำไมพวกท่านถึงได้พยายามและยอมเหนื่อยเพื่อพวกเขา

ขนาดนี้ 

คุณลักษณะประการที่สอง คือ

การตักเตือนและขัดเกลานัฟซของตนเอง

ผู้ศรัทธาจะต้องตักเตือนและขัดเกลาตนเองอยู่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับนัฟซของตนเอง

เอาลิยาของพระองค์ท่านหนึ่ง ได้ยืนหน้ากระจกเพื่อที่ว่า  จะได้ตักเตือนตนเอง เมื่อครั้นที่เขาได้มองไปใน

กระจกก็เห็นว่าเคราของตนเองนั้นกลายเป็นสีขาวไปแล้ว และได้พูดกับตนเองว่า : “ท่านมีอายุขัยมากกว่าหรือหนวดเครา?

แล้วได้พูดต่อว่า ”แน่น่อนท่านต้องมีอายุขัยที่มากกว่าเพราะว่าเคราของคนเรานั้นจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุถึง15 ปี”

หลังจากนั้นท่านก็ได้โกรธนัฟซของตนและพูดว่า :” โอ้ท่าน ลองมองดูเคราของท่านสิ เคราของท่านได้เปลี่ยนไปแล้ว (จากสีดำกลายเป็นสีขาว) แต่ทำไมท่านนั้นยังเหมือนเดิม ทำไมยังไม่เปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีเลย”

และเรื่องราวของอีกบุคคลหนึ่ง เมื่อเขาได้เข้าสู่บ้านของตนเเละเห็นลูกของตนนั้นมีสีหน้าเครียดและเป็นไข้

จึงได้เข้าไปถามหาสาเหตุจากลูกของตน ลูกของเขาได้พูดว่า “พรุ่งนี้ฉันมีสอบ ฉันถึงได้เครียดและกระวนกระวาย

ใจจนเป็นไข้”

ชายคนนั้นก็ได้พูดกับตนเองว่า “ลูกของฉันมีสอบพรุ่งนี้และด้วยกับความเครียดและเสียใจว่าเขาจะสอบผ่าน

ไหมทำให้เขาถึงกับไข้ขึ้น แต่ตัวฉันเองล่ะ ที่อยู่ในสภาพของการถูกทดสอบจากพระองค์ตลอดเวลา แต่ทำไมฉัน

ไม่เคยคิดและนึกถึงถึงมันเลย”

ด้วยเหตุนี้เอง มนุษย์ถึงต้องตักเตือนตนเองอยู่สม่ำเสมอว่าเกิดมาเพื่ออะไร

คุณลักษณะประการที่สามคือ

การน้อมรับข้อตักเตือนและคำสั่งสอน

กล่าวคือ ถ้าหากว่ามีใครมาตักเตือนท่าน ท่านก็จะต้องยอมรับในข้อตักเตือนนั้น

 

คำอรรถาธิบายส่วนที่ 4

یَا جَوَادَ السَّائِلِین

โอ้ผู้ทรงเมตตาผู้ที่วิงวอนทั้งหลาย

บางครั้งถ้าหากเราเห็นว่าดุอาที่เราขอนั้นไม่ถูกตอบรับสักที มั่นใจได้เลยว่าการงานนั้นย่อมไม่เป็นสิ่งที่

เหมาะสมกับเรา พระองค์ถึงไม่ตอบรับมัน แต่พระองค์ก็จะทรงทดแทนการงานนั้นในวันกิยามัต ในฮะดิษได้กล่าว

ไว้ว่า ในบันทึกอะมัลของผู้ที่ขอดุอาแต่ดุอาของเขานั้นกลับไม่ถูกตอบรับ ดุอาที่เขาได้ขอไป จะถูกบันทึกไว้โดยที่ว่า

เขาไม่รับรู้ พอถึงวันกิยามัต ก็จะมีเสียงกล่าวกับเขาว่า มรรคผลทั้งหลายนี้จะถูกทดแทนดุอาที่ท่านเคยขอแต่ด้วย

กับมัซลีฮัต (ความเหมาะสม)ของท่านนั้นเราจึงไม่ประทานให้ เมื่อถึงตอนนั้นผู้ศรัทธาก็จะมีความหวัง เเละเสียดาย

ว่า ดุอาทั้งหลายของเขาน่าจะไม่ถูกตอบรับเพื่อที่ว่าพระองค์จะได้ทดแทนและมอบมรรคผลทั้งหมดแก่เขาใน

วันกิยามัต

โพสเมื่อ : 16 พ.ค. 2562,00:00   อ่าน 941 ครั้ง